‘เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า’ ในกายภาพบำบัดเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังกล้ามเนื้อหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อหรือช่วยลดอาการปวด
‘เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า’ ในการบำบัดรักษาโรค เป็นการสร้างคลื่นที่มีความจำเพาะและมีค่าแม่นยำ เหมาะสำหรับการรักษาและสามารถกระตุ้นได้นาน โดยไม่มีผลแทรกซ้อน กระแสไฟฟ้าที่ใช้รักษาทางกายภาพบบำบัดจะเป็นคลื่นความถี่ต่ำทำให้มีความรู้สึกสบายระหว่างกระตุ้น สามารถรักษาปัญหากล้าเนื้อลีบ อ่อนแรง เพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดปวดและลดบวมกล้ามเนื้อได้ดี
ตามปกติร่างกายของเราจะใช้โปรตีนในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยโปรตีนจะถูกสังเคราะห์เพิ่มมากขึ้นเมื่อได้รับการกระตุ้นไฟฟ้า รวมทั้งประจุไอออน เมื่อถูกเหนี่ยวนำด้วยพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก จะไปเร่งขบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) และเร่งขบวนการลำเลียงสารอาหารเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเส้นประสาทซึ่งตามปกติจะสามารถถูกเร้าต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่าน โดยเมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก จะสามารถเร้าเส้นประสาทที่อยู่ส่วนปลายด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าผ่านผิวหนัง ทำให้เกิดการตอบสนองการตื่นตัวของเส้นประสาทได้
โดยทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของกระแสไฟฟ้า ความเข้มของกระแสไฟฟ้า ความถี่ของกระแสไฟฟ้า ตำแหน่งหรือบริเวณที่ติดขั้วไฟฟ้าและขนาดขั้วไฟฟ้า ผลของการกระตุ้นไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องจะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นประสาททั้ง ในระยะสั้น และระยะยาวโดยพบว่า การกระตุ้นไฟฟ้ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อในระดับเซลล์และโครงสร้างเซลล์ รวมถึงหน้าที่ของกล้ามเนื้อนั้นอีกด้วย
ข้อดีของการรักษาด้วย ‘การกระตุ้นไฟฟ้า’ Electrical stimulator
- ซ่อมแซมเนื้อเยื้อ
- ลดปวด ลดบวม
- ช่วยการเคลื่อนไหว หรือ เลียนแบบการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง
- คลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นชั้นลึก
- เพิ่มการไหลเวียนโลหิตในกล้ามเนื้อ
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดดำ และน้ำเหลือง
- เพิ่มความแข็งแรงในมัดกล้ามเนื้อที่มีภาวะอ่อนแรง
- เพิ่มความเร็วในการนำกระแสประสาท
- ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
- กระตุ้นการซ่อมแซมแผลให้หายเร็วขึ้น
การรักษาโดยการกระตุ้นไฟฟ้า สามารถแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อได้อย่างละเอียดและตรงจุด ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กมักใหญ่ตรงบริเวณมัดที่มีปัญหาคลายและเพิ่มความยืดหยุ่นได้ โดยกลไกการกระตุ้นของกระแสไฟฟ้า ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด น้ำ และธาตุอาหาร ของเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อ รู้สึกเบาสบายตัวทันทีหลังการรักษา ผู้รักษาต้องให้เวลาในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อต่อเนื่องในช่วงแรก ประมาณสัปดาห์และ 2 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 3-4 สัปดาห์ พบว่าผู้ที่มีปัญหาไม่มากก็สามารถคลายกล้ามเนื้อลงได้เกือบปกติ จนสามารถหยุดการรักษาและกลับไปลุยงานต่อได้อย่างสบาย แต่หากต้องทำร่วมกับการออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามที่นักกายภาพบำบัดแนะนำ กล้ามเนื้อจะไม่กลับมาปวดซ้ำแน่นอน
ทั้งนี้ คลินิกกายภาพบำบัด บางพลี ขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆที่พร้อมช่วยดูแลรักษาคุณอย่างตรงจุด โดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อคืนอิสระให้ทุกความเคลื่อนไหว รับรองได้เลยว่าการบริการของทางเรา จะทำให้คุณประทับใจอย่างมากที่สุด